ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการสร้างการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ จาก 8 ลักษณะนิสัยของคนที่พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่วที่เราสามารถหยิบยกลักษณะนิสัยมา 1-2 อย่างได้ เพื่อให้ตนเองได้ลองฝึกว่าตนเองอยากที่จะฝึกในลักษณะนิสัยใดได้บ้าง แต่มีสิ่งที่สำคัญและน่าสนใจสำหรับการฝึกภาษาอังกฤษ คือ การที่เราฝึกทักษะอะไรก็ตามใหม่ ๆ เพียง 1% ทุก ๆ วันผ่านไป 365 วันหรือหนึ่งปี ตัวเราเองจะเก่งขึ้นได้ถึง 38% จะเห็นได้ว่าการฝึกภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องการแก้โจทย์สมการเหมือนวิชาคณิตศาสตร์ แต่คือเรื่องของการฝึกประสบการณ์และการมีคำคลังศัพท์ ประสบการณ์เสียงจากการฟังที่ให้ตนเองฝึกทีละเล็กทีละน้อย ๆ แต่ควรที่จะต้องฝึกบ่อย ๆ เมื่อเรารู้แล้วว่าฝึกวันละเพียง 1% หรือแม้แต่พูดภาษาอังกฤษแค่วันละหนึ่งประโยคผ่านไปหนึ่งปีจะทำให้เราจะเก่งขึ้นถึง 37 เท่า
การวางแผนการเรียนภาษาอังกฤษที่ดี คือ เราต้องกำหนดเวลาเรียนให้ชัดเจนที่เราจะสามารถทำได้ทุกวันอย่างน้อยวันละหนึ่งครั้งหรือมากกว่านั้นก็ได้ หรือให้เราผูกการฝึกภาษาอังกฤษกับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเรา ยกตัวอย่างเช่น
- หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จฉันจะพูดภาษาอังกฤษวันละ 3 ประโยค
- หลังจากฉันได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก ฉันจะลุกขึ้นมาเปิดพอดแคสต์ภาษาอังกฤษฟัง
- หลังจากฉันเดินเข้าออฟฟิศ ฉันจะทักทายเพื่อนและพูดภาษาอังกฤษ 1 ประโยค
- หลังจากที่ฉันปิดคอมพิวเตอร์ตอนเย็น ฉันจะจดคำศัพท์หรือประโยคภาษาอังกฤษที่ได้เรียนรู้วันนี้ 1 ประโยค
โดยจุดเริ่มต้นในการฝึกษาภาษาอังกฤษเราควรที่จะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งเราเรียกว่าเป็นการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ ในการฝึกภาษาอังกฤษ สิ่งเหล่านี้จะทำให้เรามีแรงกระตุ้นในการฝึกภาษาอังกฤษมากขึ้น
และสำหรับนัก HR ซึ่งเป็นคนทำงานที่มีเวลาจำกัดในแต่ละวันสามารถนำภาษาอังกฤษเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันสำหรับตนเองได้ เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าในบทบาทหน้าที่ของตนเองมากขึ้น และเป็นตัวอย่างให้นัก HR อยากที่จะฝึกภาษาอังกฤษไปได้อย่างยั่งยืนนั้นเอง