“วิธีการจะช่วยให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้ภาษาอังกฤษหรือทักษะภาษาอังกฤษได้ด้วยตัวเอง”
ในบทความนี้ เรามีวิธีการฝึก ทักษะภาษาอังกฤษได้ด้วยตนเองแบบง่าย ๆ ด้วย 5 ขั้นตอน มาฝากกันค่ะ
- Comfort zone การให้ผู้เรียนตระหนักถึง การที่เรารู้สึกสบายกาย สบายใจกับสิ่งเดิม ๆ ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากไม่ได้ออกไปพบเอาสิ่งใหม่ ๆ ที่ท้าทายตัวเอง ไม่กล้าก้าวข้ามความกลัวในตนเอง ทำให้เราพลาดโอกาสดี ๆ หลายอย่างในชีวิตไป
- Fear zone การนำพาผู้เรียน ร่วมเรียนรู้ในกิจกรรมหรือหลักสูตรที่นัก HR ออกแบบหลักสูตร เพื่อที่จะนำพาผู้เรียนค่อย ๆ ก้าวข้ามความกลัว เปลี่ยนพื้นที่ความกลัวให้กลับกลายเป็นพื้นที่ปลอดภัย
- Learning zone การที่ผู้เรียนรู้สึกว่าเรียนสนุก พร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ มีความเป็นต้นกล้าที่จะแตกหน่อออกมาแล้วมีความแข็งแรง แข็งแกร่งที่พร้อมจะเติบโต ในขั้นตอนนี้สามารถที่จะจัดกิจกรรมให้กับผู้เรียนได้พัฒนา และสามารถที่จะเพิ่มระดับภาษา และระดับทักษะของตนเองให้เพิ่มมากขึ้นได้ด้วยการจัด Workshop การมีหลักสูตรที่เป็นคลาสเรียนแบบระยะยาว หรือ Self-learning
- Growth zone การเป็นพื้นที่ที่เติบโต แข็งแรงขึ้น มีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น ทำให้ตนเองมีความก้าวหน้ามากขึ้น
- Action zone การนำไปใช้ในชีวิตจริง จากการลงมือปฏิบัติจริงทั้งในการทำงานและในการใช้ในชีวิตประจำวัน
จากบันได 5 ขั้นที่กล่าวมาข้างต้นขอสรุปทริคง่าย ๆ สำหรับผู้ที่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษให้ประสบความสำเร็จด้วยรูปแบบที่ว่า ค้นหาวิธีที่ถูกต้อง รู้ว่าตนเองเป็นใคร ตนเองควรเรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีใดบ้างถึงจะถูกจริตกับตนเอง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือผู้เรียนแต่ละคนจะต้องหาจังหวะของตนเอง มีลู่วิ่งเป็นของตนเองและฝึกภาษาอังกฤษให้กับตนเองในทุก ๆ วันอย่างน้อยวันละ 5 นาที ส่งผลทำให้เรารู้สึกว่าการเรียนภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากและลำบาก และทำให้เราสามารถทบทวนย่อยข้อมูลความรู้ได้ง่ายขึ้น และสิ่งที่สำคัญ คือ การบันทึกความก้าวหน้าในการเรียนรู้ของตนเองไม่ว่าจะด้วยวิธีการฟัง หรือการทำแบบฝึกหัด รวมถึงการทวนซ้ำในสิ่งที่ตนเองบันทึกไว้
สิ่งสำคัญที่จะทำให้ผู้เรียนไปถึงเส้นชัยในการเรียนภาษาอังกฤษได้ คือ ในระหว่างทางต้องมีตัวชี้วัดความก้าวหน้าของตนเอง ซึ่งตัวชี้วัดนี้นัก HR อาจารย์ หรือผู้ที่ออกแบบหลักสูตร รวมถึงผู้เรียนสามารถที่จะมีส่วนร่วมในการจัดหาตัวชี้วัดที่เหมาะสมร่วมกันได้ ทำให้ผู้เรียนนั้นเรียนอย่างมีเป้าหมายและก็ประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น เมื่อไหร่ที่ต้องใช้งานจริง ให้เน้นความลื่นไหล ความเป็นธรรมชาติที่สื่อสารโต้ตอบได้
โดยไม่ต้องมี Dead air และสิ่งสำคัญ คือ ต้องรู้ว่าการพูดการสื่อสารนี้สามารถแก้ไขและสามารถทำความเข้าใจใหม่ได้เสมอไม่ว่าเราจะทำผิด ทำพลาดอะไร เราสามารถแก้ไขได้เสมอนั้นเอง